ขั้นตอนการพัฒนาระบบ ระบบ blogger

1.สำรวจเบื้องต้น

                ปัญหา

                -bloggerยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

                -คนรู้จักน้อย

                -ยังไม่มีคนสนใจมาก

                -การอัปเดทข้อมูลยังไม่รวดเร็ว

                ความเป็นไปได้

                -ทำให้คนภายในองค์กรทราบถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆอย่างรวดเร็ว กระชับ รัดกุม ทันต่อเหตุการณ์ แชร์ต่อข้อมูลต่างๆ ให้รู้ทั่วถึงกัน

                ค่าใช้จ่าย

                -ไม่มีค่าใช้จ่ายเราะเราใช้สิ่ออินเตอร์เน็ต

2.วิเคราะห์ความต้องการ

                ความต้องการของผู้ใช้ ต้องการความรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ เนื้อหาเข้าใจง่าย กระชับ ภาษาไม่ยุ่งยาก ข่าวที่มาคือความจริง ไม่แต่งเสริมเรื่อง เป็นกลาง มีจรรยาบรรณของสื่อ

                จุดเด่นของblogger

                -มีความรวดเร็ว

                -ใช้งานง่าย

                -มีคนใช้อย่างแพร่หลาย

                จุดด้อยของblogger

                -เป็นปัญหาสำหรับคนที่เล่นไม่เป็น

                -อินเตอร์เน็ตอาจเข้าไม่ถึง

                -โฟสข้อความได้น้อยมีการจำกัดตัวอักษร

                                                                                                                                        

4.การจัดหาอุปกรณ์

                   Hardware ระบบอินเตอร์เน็ตที่ติดมากับคอมพิวเตอร์ คือ blogger

                   Software  อุปกรณ์ภายในสำนักงาน เช่น คอมพิวเตอร์ โต๊ะ เก้าอี้

5.การติดตั้งและบำรุงรักษา

                     ทดสอบระบบเป็นไปตามวัตถุประสงค์

                   - ยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเพราะทวิสเตอร์ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าที่ควร

                   ติดตั้งตามระยะเวลาที่กำหนด

                   -ติดตั้งตามระยะเวลาที่กำหนดเพราะมีการอัปเดทข่าวทุกวัน

                   กำหนดเกรณ์ประเมิณผลและบำรุงรักษา

                  -มีการอัปเดทข่าวเกี่ยวกับเทศบาลเมืองหนองสำโรงเป็นส่วนใหญ่

                 -ประเมินผลทุกๆสัปดาห์ว่ามีคนเข้าชมมากน้อยแค่ไหน

หนองคาย-ชุดสืบสวน สภ.โพนพิสัย ร่วมกับหน่วยเรือโพนพิสัย (นรข.เขตหนองคาย) และฝ่ายปกครองอำเภอโพนพิสัย จับผู้ต้องหาชาย 1 ราย พร้อมยาบ้า 129 เม็ด

วันที่ 19 ต.ค. 2558 เวลา 13.30 น.พ.ต.ท.ฐนกร ถาวะโร รอง ผกก.สส.สภ.โพนพิสัย พ.ต.ท.เจษฎา ศรีกวนชา สว.สส.ร.ต.อ.ปฏิวัติ ชุมแวงวาปี รอง สวป. ร.ต.ท.สมคิด พลค้อ รอง สว.สส. ร.ต.ต.อุทัย งามสระคู รอง สว.สส. และชุดสืบสวน สภ.โพนพิสัย ร่วมกับ นรข.เขตหนองคาย (หน่วยเรือโพนพิสัย) ฝ่ายปกครองอำเภอโพนพิสัย โดยการอำนวยการของ นายคณกร เครือวรรณ นายอำเภอโพนพิสัย พ.ต.อ.ชนะเกียรติ วงศ์แสงเทียน ผกก.สภ.โพนพิสัย น.อ.สุชาติ อุดมนาค ผบ.นรข.เขตหนองคาย ร่วมกันจับกุม นายนคร หรือเหนก ปัญญาสวัสดิ์  อายุ 27 ปี ที่อยู่ 228 ม.11 บ้านจอมเสด็จ ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย พร้อมของกลาง 1.ยาบ้า จำนวน 129 เม็ด 2.รถ จยย.ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำ ขาว หมายเลขเครื่อง E3K3E-148693 หมายเลขทะเบียน 1กณ-450 จำนวน 1คัน โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย สถานที่เกิดเหตุ บริเวณริมถนนสายบ้านกุดบง-บ้านใหม่ทรายทอง ม.5 บ้านกุดบง ต.กุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ภายหลังจับกุมนำส่ง พงส.สภ.โพนพิสัย ดำเนินคดีต่อไป (http://nongkhainewsonline.blogspot.com)

หนองคาย-ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย เอาจริงร้านค้าที่นำพลุ ประทัด และดอกไม้เพลิง มาจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ล่าสุดจับแล้ว 1 ราย

วันที่ 19 ต.ค. 2558 เวลา 10.00 น.พ.ต.ท.วิเศษ ลานอุ่น สป.สภ.เมืองหนองคาย ร.ต.อ.อัครเดช พรมโสภา รองสวป.สภ.เมืองหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กรองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองหนองคาย พ.ต.ท.เรืองยศ ภูแช่มโชติ รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองหนองคาย ร่วมกันจับกุมนางสาวราณี โยคันชัย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 หมู่ 6 ต.วัดธาตุ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย พร้อมของกลางพลุลำจำนวน 3 ห่อ ประทัด 7 กล่องเล็ก ในข้อหามีดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด ไว้จำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่ร้านมุกดาภรณ์ สังฆภัณฑ์ ถนนหน้าตลาดชัยพร อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย

พ.ต.ท.วิเศษ ลานอุ่น สป.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวว่าการจับกุมในครั้งเป็นไปตามประกาศจังหวัดหนองคายเรื่องการจำหน่าย และเล่นดอกไม้เพลิงในช่วงเทศกาลออกพรรษา ซึ่งในทุกปีได้เกิดปัญหาการนำดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด มาเล่นสร้างปัญหาเกิดอันตรายต่อตัวผู้เล่นเอง รวมทั้งก่อความรำคาญและความไม่ปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ให้ร้านค้าต่างๆที่นำพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิงมาจำหน่ายโยไม่ได้รับอนุญาต ให้เลิกจำหน่าย แต่ก็ยังมีการฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายในการจับกุม และอยากประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองช่วยกันสอดส่องดูแลบุตร-หลาน อย่าได้นำพลุ ดอกไม้เพลิง รวมทั้งประทัด มาจุดในช่วงเทศกาลออกพรรษา เด็ดขาด เมื่อเจ้าหน้าที่พบจะถูกจับกุม(http://nongkhainewsonline.blogspot.com)

"หนองคาย-สืบโพนพิสัยรวบสาวใหญ่วัย 42 พร้อมยาบ้า 78 เม็ด
วันที่ 11 ต.ค. 2558 เวลา 12.30 น.พ.ต.ท.ฐนกร ถาวะโร รอง ผกก.สส.สภ.โพนพิสัย พ.ต.ท.เจษฎา ศรีกวนชา สว.สส.ร.ต.อ.ปฏิวัติ ชุมแวงวาปี รอง สวป. ร.ต.ท.สมคิด พลค้อ รอง สว.สส. ร.ต.ต.อุทัย งามสระคู รอง สว.สส. และชุดสืบสวน สภ.โพนพิสัย โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ชนะเกียรติ วงศ์แสงเทียน ผกก.สภ.โพนพิสัย ร่วมกันจับกุมนางใหม่ หรือใหม่ สิงห์สุข อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.4 ต.บ้านผือ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย พร้อมของกลาง 1.ยาบ้า จำนวน 78 เม็ด 2.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กฉ 8321 อุดรธานี จำนวน 1 คัน โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย สถานที่เกิดเหตุ บริเวณริมถนนสายบ้านผือ-บ้านนาหนัง หมู่ 4 บ้านผือ ต.บ้านผือ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ภายหลังจับกุมนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.โพนพิสัย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป"
(http://nongkhainewsonline.blogspot.com)

"หนองคาย-นรข.เขตหนองคาย (สถานีเรือหนองคาย) ดำเนินการแจ้งเรือดูดทรายและหินจาก สปป.ลาว ให้หยุดเข้ามาดูดทรายฝั่งประเทศไทย หลังประชาชนในพื้นที่ ต.ปะโค ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย ได้รับความเดือดร้อน
วันที่ 4 ต.ค. 2558 เวลา 10.00 น.น.อ.สุชาติ อุดมนาค ผบ.นรข.เขตหนองคาย สั่งการให้ น.ท.พงศกร อิฐสมบัติ ผบ.หมู่เรือที่ 4 และรักษาราชการหัวหน้าสถานีเรือหนองคาย พร้อมด้วยกำลังพล 6 นาย เรือจู่โจมลำน้ำจำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติหน้าที่ค้นหาเรือดูดทรายของ สปป.ลาว ที่เข้ามาดูทรายและหินบริเวณชายฝั่งแม่น้ำโขงใกล้กับกลุ่มผู้เลี้ยงกระชังปลาพื้นที่ ต.เวียงคุก และ ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจพบเรือดูดทรายและหินจาก สปป.ลาว จำนวน 2 ลำ ลอยลำอยู่ในน่านน้ำฝั่งประเทศไทย บริเวณ ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย จึงได้นำเดินการนำเรือเข้าไปแจ้งและตักเตือนว่ากำลังดำเนินการดูดทรายและหินในน่านน้ำของราชอาณาจักรไทยและให้นำเรือดูดทรายออกไปจากน่านน้ำ โดยเรือดูดทรายและหิน ของ สปป.ลาว ได้หยุดดูดและถอนสมอออกไปจากน่านน้ำของราชอาณาจักรไทย ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
น.ท.พงศกร อิฐสมบัติ ผบ.หมู่เรือที่ 4 และรักษาราชการหัวหน้าสถานีเรือหนองคาย กล่าวว่าหลังจาก น.อ.สุชาติ อุดมนาค ผบ.นรข.เขตหนองคาย ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ต.ปะโค และ ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย ว่ามีเรือดูดหินและทราย จาก สปป.ลาว นำเรือมาดูดหินและทราย บริเวณฝั่งประเทศไทย สร้างปัญหาทั้งเสียง มลพิษ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติการค้นหาและตรวจพบเรือดูดหินและทรายจาก สปป.ลาว จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนให้ออกไปจากบริเวณที่ทำการดูดหินและทราย
“โดยในปัจจุบันในพื้นที่หนองคาย กำลังประสบปัญหาเรื่องการลักลอบดูดหินทรายตามลำแม่น้ำโขง ซึ่งผู้ประกอบการฉวยโอกาสช่วงน้ำมาก นำเรือเข้ามาดูดหินทรายขึ้นมาขาย แต่ไม่มีการรับอนุญาตตามกฎหมาย เพราะการดูดหินทรายในเขตแม่น้ำโขง ปกติต้องมีการขออนุญาตจากหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง และจะต้องดำเนินการตามแนวเขตที่ให้อนุญาต ที่สำคัญ ปัญหาที่ตามมาคือเรื่องของผลกระทบของการสูญเสียแนวเขตระหว่างชายแดน เนื่องจากปัจจุบันในการแบ่งเขตชายแดนไทยลาว ตามข้อตกลงระหว่างประเทศ จะต้องดูจากร่องน้ำลึกเป็นหลัก แต่เมื่อมีการลักลอบดูดหินทรายปริมาณมาก จะส่งผลให้ร่องน้ำลึกตกมาใกล้ฝั่งไทย ทำให้มีการเสียดินแดน เกาะแก่งกลางแม่น้ำโขง ที่เชื่อมกับชายแดนไทย” น.ท.พงศกร อิฐสมบัติ ผบ.หมู่เรือที่ 4 และรักษาราชการหัวหน้าสถานีเรือหนองคาย กล่าว
สำหรับปัญหาเรือดูดหินและทรายจาก สปป.ลาว มักก่อให้เกิดปัญหาบ่อยครั้ง ถึงแม้จะมีการตกลงกันระหว่างทั้งสองฝ่าย เมื่อปี 2551 ว่าห้ามดูดหินทรายในห่วงเดือน ก.ค. ถึง ต.ค. เนื่องจากเป็นฤดูน้ำหลาก ซึ่งจะส่งผลให้ตลิ่งเกิดการพังเสียหาย แต่ผู้ประกอบการซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายทุนจากประเทศไทยที่ไปสัมปทานจาก สปป.ลาว มักไม่ค่อยปฏิบัติตามข้อตกลง สร้างปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและความมั่นคงของประเทศชาติ
ชาวบ้านรายหนึ่งให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า พื้นที่ที่เรือทั้ง 2 ลำ เข้ามาดูดหินทรายนั้น เป็นพื้นที่ของไทยและมีการลักลอบเข้ามาดูดเป็นประจำ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีมาตรการออกมา จะส่งผลให้เกิดการพังของตลิ่งได้"
(http://nongkhainewsonline.blogspot.com)